สคร.7 จ.ขอนแก่น รณรงค์สัปดาห์ราชประชาสมาสัย 65 “โรคเรื้อนรักษาหาย รู้เร็วรักษาทัน ป้องกันความพิการได้”
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น ร่วมรณรงค์เนื่องในสัปดาห์ราชประชาสมาสัย ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “โรคเรื้อนรักษาหาย รู้เร็วรักษาทัน ป้องกันความพิการได้” แนะนำประชาชนหากพบผิวหนังเป็นวงด่าง ชา ไม่คัน มากกว่า 3 เดือน ให้รีบพบแพทย์
นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 10 - 16 มกราคม 2565 ถือเป็นสัปดาห์ราชประชาสมาสัย โดยในปี 2565 สถาบันราชประชาสมาสัย กรมควบคุมโรค ได้กำหนดประเด็นการรณรงค์ คือ “โรคเรื้อนรักษาหาย รู้เร็วรักษาทัน ป้องกันความพิการได้” เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเรื้อน และให้ผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการรักษาได้เข้าถึงการรักษาโดยเร็ว เพื่อป้องกันความพิการ และนำไปสู่การกำจัดโรคเรื้อนได้สำเร็จและยั่งยืน
สถานการณ์โรคเรื้อนในประเทศไทย ปี 2563 ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 พบมีผู้ป่วยโรคเรื้อนในทะเบียนรักษาทั่วประเทศ จำนวน 222 ราย คิดเป็นอัตราความชุก 0.03 ต่อ 10,000 ประชากร โดยในระดับจังหวัด และอำเภอทั่วประเทศ ได้บรรลุเป้าหมายการกำจัดโรคเรื้อน จนไม่เป็นปัญหาทางสาธารณสุขตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก คือ มีอัตราความชุก โรคเรื้อนต่ำกว่า 1 ต่อ 10,000 ประชากร ส่วนในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7 (ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด) ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2564 พบผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ที่ขึ้นทะเบียนรักษา ทั้งหมด จำนวน 6 ราย โดย 1 ใน 6 ราย เป็นผู้ป่วยกลับเป็นซ้ำ จำนวน 1 ราย
นายแพทย์สมาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันแม้ว่าสถานการณ์ของโรคเรื้อนในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาที่ยังคงมีอยู่คือสัดส่วนผู้ป่วยใหม่ที่มีความพิการ ยังไม่มีแนวโน้มลดลง ดังนั้นการช่วยให้ผู้ป่วยที่หลบซ่อนหรือไม่รู้ว่าตนเองป่วยให้ได้รับการตรวจรักษาโรคจนหายขาด และผู้พิการได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ยังคงเป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน เพื่อนำไปสู่การกำจัดโรคเรื้อนได้สำเร็จและยั่งยืน ถึงแม้ว่าโรคเรื้อนติดต่อได้ยาก แต่ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งระยะเวลาในการรักษาจะเป็นไปตามความรุนแรงของโรค คือ รักษาต่อเนื่องตั้งแต่ 6 เดือน - 2 ปี หากรู้เร็วจะสามารถรักษาได้ทัน และป้องกันความพิการได้ ดังนั้นควรสำรวจร่างกายของตนเองและคนใกล้ชิด หากพบผิวหนังเป็นวงด่างสีจาง หรือแดงกว่าผิวหนังปกติ มีอาการชา หรือเป็นผื่นนูนแดง ตุ่มแดง ไม่คัน มามากกว่า 3 เดือน โดยกินยาหรือทายาทั่วไป (ที่ไม่ใช่ยารักษาโรค) แล้วไม่หาย ให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND #Khonkaen2Day
CR: ทปษ.ชาลี พงษ์นุ่มกูล
ข้อมูลข่าวและที่มา : https://thainews.prd.go.th
ผู้สื่อข่าว : พิชัย ศิริสม
เรียบเรียงโดย : สุนทรี ทับมาโนช
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น