จังหวัดขอนแก่นร่วมประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล
และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566
ที่ห้องประชุมดอกคูณ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 (เดือนพฤศจิกายน 2565) ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมฯ
พลเอก อนุพงษ์ฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อติดตามขับเคลื่อนงานของกรม รัฐวิสาหกิจ และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยระดับพื้นที่ โดยกลไกมหาดไทยทุกระดับได้ขับเคลื่อนการทำงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง บางพื้นที่สามารถขับเคลื่อนเป็นตัวอย่าง และบางพื้นที่พบอุปสรรคการทำงาน โดยเน้นย้ำแนวทางการทำงานที่สำคัญ ได้แก่
1) การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็นแม่ทัพในการแก้อย่างจริงจัง ทั้งด้านอุปทาน (Supply Side) ของยาเสพติด พบว่าผู้กระทำความผิดมีรูปแบบช่องทางการจำหน่ายและขนส่งที่ซับซ้อน เพื่อให้การค้นหามีความสลับซับซ้อนขึ้น ทั้งการจำหน่ายผ่านโซเชียลมีเดีย และการลักลอบขนส่งผ่านผู้ให้บริการทั้งของรัฐและเอกชน จึงต้องบูรณาการทั้งเรื่องการข่าวและการปราบปราม Supply Side ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ทุกกลไกตามโครงสร้างการบังคับบัญชาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด ด้วยการเอาใจใส่ ไม่ปล่อยปะละเลย ทำให้ชัด เพราะเรามีอำนาจหน้าที่ มีหน่วยงานรับผิดชอบ และในด้านอุปสงค์ (Demand Side) ของยาเสพติด ต้องบูรณาการกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ทั้งโรงเรียนสังกัด อปท. โรงเรียนสังกัด สพฐ. และสังกัดอื่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนเสพหน้าใหม่ และป้องกันอันตรายในสังคมจากผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง (Serious Mental Illness with High Risk to Violence: SMI-V)” เพราะคนกลุ่มนี้เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงกับคนในครอบครัวและสังคม
2) การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน ให้กรมการปกครองใช้กลไกควบคุมการพิจารณาออกใบอนุญาตทุกประเภทให้เป็นไปตามกฎหมาย และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกวดขันนายอำเภอให้เข้มงวดการพิจารณาออกใบอนุญาต โดยดูทั้งคุณสมบัติบุคคลและเรื่องอื่น ๆ ให้ถี่ถ้วน รัดกุม
3) งานทะเบียนและบัตร เป็นงานบริการพี่น้องประชาชนที่มักจะได้รับรายงานพบปัญหาการทุจริต จึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอกำชับให้ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบได้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความซื่อสัตย์สุจริต “ต้องไม่ให้เกิดการทุจริต” และต้อง “ไม่กระทบกับการอำนวยความสะดวกบริการประชาชน” แต่หากพบการทุจริตต้องรับผิดชอบตามกฎหมายไม่มีละเว้น
4) การขับเคลื่อนกลไกแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน(ศจพ. )ตามกลไก ศจพ. ซึ่งเราได้เข้าถึงทุกปัญหาของพี่น้องประชาชนกลุ่มเป้าหมายใน TPMAP และได้เริ่มแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนครบทุกครัวเรือนแล้ว โดยสิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอต้องกำชับให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลการดำเนินการแก้ไขปัญหาในระบบ LOG Book เพื่อให้คณะอนุกรรมการประเมินผลของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมีข้อมูลในการกำหนดแนวทางการดำเนินงานต่อไป พร้อมทั้งให้ ศจพ.ทุกระดับ ทีมปฏิบัติการตำบล และทีมพี่เลี้ยง ลงพื้นที่ไปติดตามคุณภาพชีวิตของครัวเรือนเป้าหมาย เพื่อไม่ให้ประสบปัญหาซ้ำอีก และทำให้เกิดความยั่งยืน
Admin : ปิยพล จันทรา
ข้อมูลข่าวและที่มา : https://thainews.prd.go.th
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น